การเตรียมร่างกาย
1 ควรออกกำลังกายประจำ เช่น วิ่ง ออกกำลังฟิตเนส หรือการบริหารร่างกาย การฝึกโยคะ เพื่อให้หัวใจ กล้ามเนื้อ ร่างกายทุกส่วนได้คุ้นเคยก่อนที่จะใช้งานในการเดินป่า
2 ให้ออกกำลังกายท่าง่ายๆเพิ่มเติมที่มีประโยชน์ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ น่องและขาโดยตรงอย่างแท้จริง คือ ท่ายืน-นั่งยอง (sit up) โดยเอามือกุมกัน วางบนศีรษะ ยืนเท้าห่างกันเท่ากับไหล่ หายใจออก- พร้อมย่อขานั่งยอง หายใจเข้า-พร้อมยืดขายืนขึ้น ทำเซทละ 50 ครั้ง / ไม่เกิน 2 นาที พัก 10 นาทีแล้วทำต่ออีก หนึ่งเซท ทำวันละ 2 - 4 เซท (เช้า / เย็น) ใช้เวลาเพียงวันละ 8 นาที ระหว่างดูโทรทัศน์ ก็ทำท่านี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะดีมากเริ่มฝึกตั้งแต่ ก่อนออกทริปอย่างน้อย 30 - 40 วัน เริ่มจาก 20 -30 - 40 - 50 ครั้ง ควรทำได้ครบ 50ครั้ง / เซท ก่อนออกทริปอย่างน้อย 7 วัน จะมีกำลังขาและน่องพอเพียงสำหรับการเดินป่าได้ทุกทริป
การเตรียมจิตใจ
การเดินป่า เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความอุตสาหะ กำลังใจ ความมุ่งมั่น ท่านจะต้องเตรียมพร้อมทางจิตใจ จะต้องกินง่าย นอนง่ายอยู่ง่าย อดทนต่อความยากลำบาก ความเหน็ดเหนื่อย ความหิว ต้องเป็นผู้ที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในระดับหนึ่ง และควรช่วยเหลือบุคคลอื่นได้ เป็นผู้มีจิตใจเสียสละ ยินดีร่วมทุกข์ร่วมสุขกับหมู่คณะ มีความรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีจิตใจพร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่
สำหรับท่านที่อยากจะเดินป่า แต่ไม่มีเพื่อนมาร่วมเดินในครั้งแรกด้วยนั้น ท่านอาจจะกลัวและไม่กล้า ถ้าท่านได้เตรียมตัวมาดี ท่านก็มั่นใจว่าจะไม่เป็นภาระแก่ใครและสามารถเดินได้ตลอดทริป จงมาเถอะ ในครั้งแรกท่านอาจจะยังไม่รู้จักใคร หากท่านเป็นคนที่ปรับตัวเข้ากับคนง่าย เพียงนั่งรอก่อนออกรถ ก็สามารถแนะนำตัว ทักทาย ทำความรู้จัก ทำความคุ้นเคยกับเพื่อนผู้จะร่วมทริป เมื่อกลับจากทริปท่านก็มีเพื่อนๆ ที่มีรสนิยมชอบเดินป่าอย่างเดียวกันหลายคนแล้ว
นักเดินป่าในปัจจุบัน ยังอาจจะมีจำนวนน้อย ท่านอาจจะดูเหมือนเป็นตัวประหลาดในหน่วยงาน หรือในหมู่เพื่อนฝูง ที่คิดว่า การพักผ่อนหรือเที่ยวสนุก ได้แก่ การกินอาหารอร่อยอุดมสมบูรณ์ การนั่งเล่น นอนเล่นสบายๆ ไม่ใช่ไปแบกเป้หนักๆๆ นอนเปล-นอนเต็นท์-หรือนอนพื้นดิน ท่ามกลางฝน กลางอากาศหนาว เหน็ดเหนื่อย ปวดเมื่อย ขาบวม แขน ขามีรอยขีดข่วน มีรอยทากกัด อาหารการกินไม่อุดมสมบูรณ์ ขาดแคลนน้ำที่จะดื่ม ต้องดื่มน้ำไหลตามธรรมชาติ ไม่มีน้ำจะอาบ อาจจะไม่ได้อาบน้ำหลายๆวัน แต่นั่นคือรสชาติของชีวิต ได้พบสถานที่สวยงาม ที่หากไม่ลงทุนลงแรงด้วยตนเอง ก็ไม่อาจจะได้พบเลยในชีวิต
สำหรับท่านที่มีอายุมากหน่อย อาจจะ 40 - 60 ปี ถ้าท่านมั่นใจตัวเองว่าแข็งแรงและได้เตรียมตัวอย่างที่แนะนำมาพอเพียงก็ สามารถเดินป่าได้ แต่ครั้งแรกอาจจะลองเลือกทริป แค่ระดับง่าย-ปานกลาง หรือปานกลางไปก่อน แล้วค่อยเลือกทริปที่ท่านอยากไปไม่ว่าจะปานกลาง-หนัก หรือหนัก หากมั่นใจตัวเองและมีประสบการณ์มาบ้างพอสมควร หลายคนอายุมากกว่า 50 ปี แต่ยังเดินได้สบายๆ
ประโยชน์ทางตรง อีกอย่างคือ การเดินป่า เป็นการบังคับทางอ้อมให้ออกกำลังกายที่มีระยะเวลายาว จนกว่าจะจบทริป ส่วนการออกกำลังทั่วไปบางครั้งเบื่อก็เลิกทำ แต่เดินป่าเมื่อออกเดินแล้ว ไม่สามารถเลิกกลางคันได้
เรื่องทาก เป็นปัญหาใหญ่ สำหรับคนไม่เคยเดินป่า หรือเดินแล้วยังกลัวอยู่ ต้องหัดทำใจไม่ต้องกลัว พกแอลกอฮอล์เช็ดแผล เบตาดีน และสำลี ไว้เช็ดแผลที่ทาก หรือคุ่น หรือเห็บกัด จะช่วยให้ไม่อักเสบแผลหายไว
เมื่อทากมาเกาะ ก็เอาน้ำส้มสายชู ที่กินได้ใส่ขวดเสปรย์ ฉีดพ่นก็หลุดง่ายดาย ดีกว่าไปซื้อยาฉีดแพงๆ ถ้าชินแล้วก็จับออกได้
แนะนำเทคนิคเพิ่มเติม
ระหว่างออกทริป ไม่ว่าจะเดินในน้ำ เดินขึ้นเขา หรือเดินลงเขา ถ้าจะให้ไม่เหนื่อยมาก ลดโอกาสการเป็นตะคริว ไม่กลัวทางสูงชัน ไม่กลัวทางลื่น ไม่กลัวทางเละ ไม่ปวดน่องปวดหน้าขามาก ไม่เจ็บปลายนิ้วเท้าเวลาลงเขา และรองเท้าก็ไม่จำเป็นต้องหารองเท้าที่มีดอกลึก
ขอแนะนำว่า ให้ใช้ไม้เท้าในการเดินป่าทุกครั้ง ไม้เท้าดีมีประโยชน์สูงสุด ควรมีความยาวเท่าความสูงของตัวเรา + 20 เซ็นติเมตร หรืออย่างน้อยก็ยาวเท่าความสูงของตัวเรา เมื่อใช้ไม้เท้าเป็นแล้วเส้นทางเดินที่ยากก็จะง่ายลงมาก
หากใช้ไม้เท้าเป็น ถือไม้เท้าเป็นแล้ว เส้นทางที่ว่ายากก็จะง่ายลง มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เหนื่อยน้อยลง เมื่อยน้อยลง เดินได้เร็วขึ้น ไม่ว่าจะเดินในน้ำ เดินขึ้นเขา เดินลงเขา หรือแม้แต่พื้นราบ
เทคนิคสำคัญที่สุดของการเดินป่า คือ
การรักษาระดับการหายใจให้สม่ำเสมอ ก้าวเท้าแบบสมาธิ ให้ประสานกับการหายใจ รักษาความเร็วในการเดินสม่ำเสมอ ไม่ต้องเร่งเดิน ควรหายใจทั้งทางจมูกและปาก การก้าวเดินเมื่อขึ้นเขา หรือลงเขาให้ก้าวสั้นกว่าปกติ อย่าให้ต้องก้าวขึ้นหรือลงสูงเกินไป หาจุดวางเท้าให้ระยะความสูงของก้าวเท้าต่ำๆ
เมื่อลงเขาหรือขึ้นเขาให้วางเท้าแบบเฉียงๆ ถ้าชันมากให้วางเท้าขวาง 90 องศาเลย จะทำให้โอกาสลื่นล้มน้อยลง เมื่อเดินเลาะริมผา หรือริมเขาให้กางมือแตะผนังไว้ ตัวเราก็จะเอนเข้าหาด้านนั้นโดยธรรมชาติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น